แรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) หมายถึง พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ...พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วมขัง พื้นที่พรุ ทั้งที่เป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืดและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล มีความสำคัญต่อระบบนิเวศเพราะแหล่งเก็บกักน้ำ ป้องกันน้ำเค็มมิให้รุกเข้ามาในแผ่นดิน...
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
เก็บตกเรื่องราวคุณสตังค์ ๒
ป้าเอี้ยงนำคุณสตังค์ลงเรือล่องท่องชลไปเก็บฝักรุ่ย
คุณสตังค์ได้มอบเงินค่าใช้จ่ายให้ป้าสมจิตรเจ้าของบ้าน น้องศิตา เฟื่องย้อย ทีช่วยเก็บรุ่ยปอกรุ่ยแบบมอบซองแดงอั่งเปา และท่านอื่น ๆ
ซึ่งคุณป้าสมจิตร เจ้าของบ้านปฏิเสธที่จะรับซองอั่งเปานั้น แต่คุณสตังค์ก็มีวิธีการพูดที่ฉลาดว่านี่เป็นเงินงบประมาณการถ่ายทำของรายการที่จัดสรรทุกครั่งที่ออกถ่ายทำรายการไม่ใช่เงินสตังค่ครับช่วยรับไว้แล้วคุณป้าจะเอาไปทำอะไรเช่นทำบุญตามใจอยากทำเถอะครับ สตังค่ต้องทำงานตามกฏของรายการครับ
ทีเราได้มาร่วมกันทำกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ได้ในวันนี้นั้น ก็เพราะเราเคยทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนพวกเราถึงได้มารู้จักกันทำงานร่วมกันอย่างสนุกสนานมีสาระแก่ตนทั่่วไปแบบนี่ครับ
คุณป้าสมจิตรก็เลยรับไว้เพื่อนำไปทำบุญกุศลต่อยอด
คุณป้าสมจิตร ประดิษฐ์พงษ์
เลยทำให้พลอยโพยมนึกถึงคำสอนของพระวิปัสสนาจารย์ที่สอนปฏิบัติธรรม
พระอาจารย่สอนเสมอว่าโลกนี่ไม่มีคำว่าบังเอิญ ทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัยของแต่ละบุคคลที่ทำกันไว้ในภพชาติก่อนๆ
พลอยโพยมจึงพูดต่อว่าชาติทีแล้วพวกเราต้องเคยทำงานที่ดี ๆ มีประโยชน่แก่สังคมร่วมกันมาก่อนขณะทำจิตของพวกเราคงยินดีมีความสุขกับงานที่ทำในขณะนั่น
ชาตินี้เลยมีเหตุปัจจัยชักนำให้พวกเราได้มารู้จักกันทำงานร่วมกันอีกในชาตินี่แบบใน ๓ วันมานี้
คุณสตังค่รับคำใช่เลยครับ
เปิดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณสตังค์ มีบางแหล่งข้อมูลระบุว่าคุณสตังค์เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมร่าช แต่จำได้ว่าคุณสตังค์กล่าวถึงว่าเกิดที่ จังหวัดตรัง อําเภอย่านตาขาว ซึ่งเผอิญ ท่านศึกษาธิการสมนึก เมธาวศิน และ ท่านศึกษานิเทศก์ เปี่ยมจิต เมธาวศินเคยไปรับราชการ
หลังจากการพักเมนูแรกของหวาน คือรุ่ยแกงบวดแล้ว จึงเริ่มรายการเมนูที่สอง ของคาว คือ แกงคั่วรุ่ยและลูกจากอ่อน
ก็เป็นความใส่ใจ ที่คุณสตังค์มีให้กับคนที่ไปให้กำลังใจ เรียกตัวทีมงานลงไปร่วมกิจกรรม ทำเมนูนี้เพิ่มเติม เสียดายที่คุณครูบังอร รัตนโยธิน กลับไปเสียก่อนจึงไม่ได้มาร่วมกันเตรียมส่วนประกอบของเมนู แกงคั่วรุ่ยใส่ลูกจากอ่อน ซึ่งรายการที่เจ้าของถิ่น คือพวกเรา นำเสนอ แกงคั่วลูกจากอ่อน ซึ่งในคราวงานบางปะกงส่งเสียง ครั้งที่ ๒ บ้านเราบ้านโพธิ์ บ้านแสนสุข ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้มาชมงานและชิมอาหารพื้นบ้านจากป่าชายเลนบ้านโพธิ์
สำหรับการล้อมวงทานข้าว คณะทีมงานภัตตาคารบ้านทุ่งจะมีคุณสตังค์คนเดียวที่มาล้อมวงกับชาวบ้านเจ้าของถิ่น เมื่อพลอยโพยม ส่งกับข้าวเพิ่มเติมลงในจานกับข้าว แล้วเห็นคุณสตังค์ไม่ตักเพิ่มเติม จึงถามว่า ไม่อร่อยหรือไรถึงไม่ตักอีก คำตอบของคุณสตังค์ คือ เก็บไว้ให้น้อง ๆ ทีมงานทานครับ เป็นความห่วงใยทีมงานใต้บังคับบัญชาของคุณสตังค์ ที่น่าเล่าสู่กันอ่านแบบนี้ต้องใช้คำว่า ห่วงหาอาทร
และจากการที่คุณสตังค์เปิดใจเล่าเรื่องส่วนตัว พลอยโพยมก็ได้ข้อคิดมากมายจากตัวตนของคุณสตังค์
คุณสตังค์ เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในสาขาที่ตนเองได้เลือกแล้ว ว่าอยากเข้าไปศึกษา แต่ในเวลาไม่นาน คุณสตังค์ก็รู้ได้ด้วยตนเองว่า ความรู้ที่อยากเรียนนักหนานั้น แท้จริงแล้วไม่ตอบสนองการดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าของตนเอง ปริญญาบัตรไม่มีค่าเท่าปริญญาจากชีวิตจริง คุณสตังค์ เลือกที่กำหนดชีวิตของตนเอง แบบ หนังสือดังเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเลยทีเดียว "ชีวิตลิขิตได้"
ความสุขใดเล่าจะเท่าได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรักชอบ ความสุขจากการทำงาน ที่ชีวิตเกือบทั้งวัน ทั้งวันของเราต้องคลุกคลีด้วย มีเวลาพักผ่อนแค่เพียงพอสำหรับวันใหม่ในทุก ๆ วัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ รวมทั้งพลอยโพยมเองด้วย ที่ต้องทนทำงานที่เราไม่ชอบ เพื่อผลตอบแทนของการทำงาน สำหรับนำมาใช้ดำรงชีวิตอยู่ กว่าจะรู้ตัวว่า ชีวิตของตนชอบอะไร อยากทำอะไร ก็สายเกินไปเสียแล้ว กลับตัว หรือ U TURN เส้นทางชีวิตไม่ทันการเสียแล้ว
ขออภัยที่เล่าเรื่องคุณสตังค์ค้างไว้ ตั้งแต่ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ก่อนอื่น ต้องขออภัยที่หายวับไป จาก bangpakongramsar.blogspot.com เพราะมีเรื่องด่วน และสำคัญ เป็นภาระกิจที่ใช้ วัน เวลา เกือบทั้งหมดที่ผ่านมา แม้จะพอมีเวลาบ้าง ก็เหนื่อยล้าเกินกว่า จะเขียนเรื่องราวอะไร ๆ อีกได้
แต่เมื่อมาเปิด Blog ดู ก็เห็นยังมีผู้เข้ามาชมมาอ่านเรื่องราว ก็ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่าน และรู้สึกผิดที่เงียบหายเหมือนลับหายไปจากสายน้ำบางปะกง ราวกับสายน้ำไหลลงทะเลไปแล้วไม่หวนคืนกลับ แต่ในความเป็นจริง แม่น้ำบางปะกง จะไหลขึ้น ๆ ลง ๆ ผ่านกาลเวลาที่เนิ่นนาน
ความที่ห่างหายไปนาน แทบมาเขียนเรื่องราว ต่อความที่เล่าค้างไว้เกือบไม่ติด ความคิดที่ค้างไว้มันเลือนหายไปกับกาลเวลาเสียแล้ว ก็จะพยายามสานต่อ เรื่องคุณสตังค์ อย่างน้อย ตอนที่ ๒
ขอแนะนำตัวตนคุณสตังค์จากข้อมูลที่สืบค้นมาดังต่อไปนี้
ก่อนหน้านี้คุณสตังค์เคยเป็นช่างภาพสารคดีโทรทัศน์ ครีเอทีฟและช่างภาพสารคดี รายการกบนอกกะลา และรายการคนค้นคน พิธีกรรับเชิญรายการครอบครัวเดียวกัน ทางช่องทีวีไทย
คุณสตังค์ มีนามจริงว่า จรงค์ศักดิ์ รองเดช” เป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัท คิดดี มุ่งทำดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง
บริษัท คิดดี มุ่งทำดี มีที่มา ดังนี้ (ขอลอกตามต้นฉบับที่มีผู้เขียนไว้ )
“คิดดี มุ่งทำดี” เกิดมาจากจิตสำนึกและปณิธานอันแน่วแน่ของสตังค์ ที่ต้องการจะผลิตสื่อดีๆ สู่สังคม โดยเฉพาะแก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นงานที่เขาอยากทำมาตลอด เนื่องจากมองว่าสังคมสมัยนี้ขาดแคลนสื่อดีๆ ที่สร้างสรรค์ เดิมสตังค์ชอบชื่อ.......
“คิดดี ทำดี”
ที่ออกแนวพระพุทธศาสนาและเป็นแนวที่เขาได้รับการซึมซับมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจากการเข้าค่ายอบรมพุทธบุตรและธรรมทายาทขนาดถือศีล ๘ ในโรงเรียนโดยที่ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งครูอาจารย์ แต่ชื่อนี้มีคนจดทะเบียนเสียแล้วทำให้พลาดโอกาสแต่ด้วยความชอบจึงไม่ยอมจำนน ยังไง...ก็ต้องมี “คิดดี ทำดี” อยู่ด้วย
เขาจึงพยายามค้นหาคำมาเชื่อมต่อโดยที่ความหมายของชื่อไม่เปลี่ยนไป ด้านพี่ชายที่เป็นคนส่งเขาเล่าเรียนหนังสือมาโดยตลอด และเป็นผู้สนับสนุนทุนในการก่อตั้งบริษัทนี้ด้วยเสนอให้ตั้งชื่อ....... “คิดดี พูดดี ทำดี” ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาไปเลย แต่เขาเห็นแย้งหากจะมีคำว่าพูดดีอยู่ด้วย
“ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดดีได้ไหม เพราะผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ต้องไปพบเจอใครพูดดีแต่ไม่ทำ ผมก็เลยตัดคำว่าพูดดีออกไปเหลือแต่คิดดีเหลือแต่คิดดี ทำดี แล้วเติมคำว่า ‘มุ่ง’ เข้าไปเชื่อม
จึงได้ชื่ออย่างที่เห็นความหมายคงเดิม แล้วผมก็ชอบและดูเป็นมงคลอย่างยิ่ง”
สตังค์ อธิบายคำว่า มุ่ง มาจากคำว่า “มุ่งมั่น” ซึ่งเป็นคำที่เขาถามตัวเองและย้อนมองเรื่องราวการต่อสู้ที่ผ่านมาทั้งหมดของชีวิตว่าอะไรที่จะทำให้มาถึงจุดนี้ได้นั่นคือ ก็ความมุ่งมั่นตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะฝ่าฟันอุปสรรคอย่างแท้จริง เขานิยามความมุ่งมั่น คือ “การตั้งใจเกินอัตราปกติ” อุปมาเหมือนการอ่านหนังสือ ถ้าจะอ่านสอบเราใช้ความตั้งใจอ่าน อาจอ่านได้ ๒๐ หน้า แต่ถ้าใช้ความมุ่งมั่นเข้าด้วยจะต้องอ่านได้ถึง....... ๕๐ หน้า คิดดี มุ่งทำดี ของสตังค์ตอนนี้เข ภาระหน้าที่หลัก คือ ผลิตรายการสารคดีโทรทัศน์ และผลิตสื่อนำเสนอให้กับหน่วยงานต่างๆ อาทิ หน่วยงานราชการ องค์กร มูลนิธิ หรือบริษัทเอกชน และมุ่งเน้นที่จะผลิตสื่อนิตยสารเกี่ยวกับวัยรุ่นที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการทางความคิดในแนวทางสร้างสรรค์...
ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://m.posttoday.com/article.php?id=137802&channel_id=3000
นอกจากรายการภัตตาคารบ้านทุ่งแล้ว คุณสตังค์ ยังเป็นพิธีกรรายการกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นอีกเช่น (ก่อนจะเป็นระบบดิจิตอล)
คุยโขมงท่องถิ่นไทย
รายการ ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน
เข้าร่วมเสวนา เสวนานักคิด นักเขียน และนักอ่าน ณ เวทีเสวนากลางแจ้ง ลานตึกกลม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท
และมีโครงการต่าง ๆ ที่คิดจะทำอีกมากมาย
นี่เป็นข้อมูลที่สืบค้นเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก internet หลายแห่ง
รางวัลเกียรติยศ ของคุณสตังค์
งานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่ ๒๙ ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อมอบรางวัลส่งเสริมกิจการโทรทัศน์ ซึ่งจัดโดยชมรมส่งเสริมโทรทัศน์ (โทรทัศน์ทองคำ)
รางวัลผู้ดำเนินรายการชายดีเด่น ได้แก่ จรงศักดิ์ รองเดช รายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง โดย บริษัท คิดดี มุ่งทำดี จำกัด สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
และเมื่อต้น ปี ๒๕๕๙
มีการสรุปผลโหวต รายการเด่น ประจำปี ๒๕๕๘ #ThaiPBS รายการ #ภัตตาคารบ้านทุ่ง ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดใน #กลุ่มรายการสารประโยชน์และสารดี ถือเป็นข่าวดีต้อนรับปี ๒๕๕๙
พลอยโพยมขอชื่นชม คุณจรงศักดิ์ รองเดช คุณสตังค์ของรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง มา ณ ที่นี้
ป้ายกำกับ:
บทความ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น