วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สายน้ำแหล่งชีวิต ๓





พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๕
ขอขอบคุณภาพจาก

http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/ww523/2282520/2282520-web2/sum/z03.htm


ขอขอบคุณภาพจาก
http://khonsurin.blogspot.com/2012/01/blog-post.html

วิถึชีวิตคนไทยกับน้ำ

วัฒนธรรมประเพณีที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
๒  .พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา



ขอขอบคุณภาพจาก
http://www.pharamee.net/forum.php?mod=viewthread&tid=1262




พระราชพิธีนี้กระทำขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ของข้าราชการทุกคนมีตั้งแต่สมัยอยุธยาสืบต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ด้วยการดื่มน้ำศักดิ๋สิทธิ์ หรือน้ำพิพัฒน์สัตยา หรือน้ำสาบานต่อหน้าพระพักตร์ของพระมหากษัตริย์

น้ำสาบานนี้มาขจากการเสกเป่าของพระมหาราชครู (พราหมณ์) ซึ่งจะมีการชุบพระแสงและอ่านโองการอช่งน้ำ อันหมายถึง แทงพระแสงดาบลงไปในน้ำแล้วสาปแช่ง (ในโองการแช่งน้ำมีคำกล่าวสรรเสริญพระนารายณ์อยู่ด้วย)

น้ำสาบานนี้มีคุณลักษณะที่แปรสภาพจิตใจของมนุษย์ เพราะถือว่าผู้ใดที่ได้ดื่มน้ำสาบานซึ่งผ่านการปลุกเสกมาอย่างน่าเกรงขามเช่นนี้แล้ว คงไม่กล้าที่จะคิดกบฏ ฉ้อราษฎร์บังหลวง



ขอขอบคุณภาพจาก

http://www.laksanathai.com/book2/p042.aspx

พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาหรือ พระราชพิธีศรีสัจจปานกาลซึ่งเป็นพิธีที่รวมทั้งศาสนาพุทธและฮินดู ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากประเพณีโบราณมาครั้งหนึ่งแล้วในสมัยรัชกาลที่ ๔ ของกรุงรัตนโกสินทร์ แต่เดิมมานั้นพระมหากษัตริย์มิได้เสวยน้ำชำระพระแสงด้วย แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ถวายทรงดื่มก่อน แล้วจึงให้พนักงานเชิญไปถวายพระบรม วงศานุวงศ์และข้าราชการ เมื่อได้มีการรื้อฟื้นพระราชพิธีนี้ขึ้นใหม่ ในรัชกาลปัจจุบันหลังจากที่ได้ยกเลิกไป หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ และเรียกเสียใหม่ว่า พระราชพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีฯ โดยให้ผู้ที่ได้ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ เท่านั้นถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา คำถวาย สัตย์ปฏิญาณก็แตกต่างออกไปจากแบบ เดิม คือมิได้มีการออกพระนามพระมหา กษัตริย์ แต่เป็นการสาบานตนต่อประเทศ ชาติและประชาชนชาวไทย


ขอขอบคุณภาพจาก
http://www.pharamee.net/forum.php?mod=viewthread&tid=1262



น้ำพิพัฒน์สัตยานี้ จะตักน้ำมาจาก


1. แม่น้ำบางประกง ตักที่บึงพระอาจารย์ แขวงเมืองนครนายก (ภายหลังมีการเปลี่ยนสถานที่ตัก เป็นที่ปากน้ำโจ้โล้ หน้าวัดหลวงพ่อพุทธโสธร)

2. แม่น้ำป่าสัก ตักที่ตำบลท่าราบ แขวงเมืองสระบุรี

3. แม่น้ำเจ้าพระยา ตักที่ตำบลบางแก้ว แขวงเมืองอ่างทอง

4. แม่น้ำแม่กลอง ตักที่ตำบลดาวดึงษ์ แขวงเมืองสมุทรสงคราม

5. แม่น้ำเพชรบุรี ตักที่ตำบลท่าไชย แขวงเมืองเพชรบุรี

น้ำในแม่น้ำทั้ง 5 สายนี้ มีชื่อเรียกว่า เบญจสุทธิคงคา โดยอนุโมตามปัญจมหานทีในชมพูทวีปน้ำในแต่ละแห่งดังกล่าวเมื่องตักมาแล้ว จะตั้งพิธีเสก ณ เจดีย์สถานแห่งแขวงนั้น ๆ แล้วจึงจัดส่งเข้ามาทำพิธีที่กรุงเทพฯ ต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=18817
http://www.laksanathai.com/book2/p042.aspx

หนังสือวิถึชีวิตคนไทยกับน้ำ เรียบเรียงโดยฐาพร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น