วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

ตำนานหลวงพ่อพุทธโสธร ๒




ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธโสธรเดิมเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิหล่อด้วยสำริด มีพุทธลักษณะงดงาม บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้โพธิ์ ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ  ๒ คืบเศษ ตามคำบอกเล่าของคนพื้นเมืองฉะเชิงเทรา ที่มีอายุมาก ๆ ว่า เมื่อกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแพร่หลายเลื่องลือไปตามถิ่นต่างๆ พระภิกษุสงฆ์ในวัด (ที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดโสธรฯ ) ตลอดจนทายกทายิกา ผู้มีศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อ พากันปริวิตกว่า ผู้มีกิเลสแรงกล้าอาจลักไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว หรือลักลอบเชิญหลวงพ่อไปเสียที่อื่น จึงพร้อมใจกันสร้างพระพุทธรูปจำลองแบบไม้ธรรมดาขึ้น แล้วนำไปสวมครอบปิดพระพุทธรูปองค์จริงไว้ชั้นหนึ่ง เพื่อเป็นการพรางตา ต่อมามีผู้เห็นว่าพระพุทธรูปจำลองด้วยไม้ที่ทำไว้นั้น ยังไม่เป็นการปลอดภัยเพียงพอจะป้องกันโจรผู้ร้าย จึงทำพระพทธรูปไม้ชนิดเดียวกับครั้งก่อนแต่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสวมครอบทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง และท้ายที่สุดจึงได้พอกปูนเสริมให้องค์พระใหญ่ขึ้น หุ้มองค์จริงไว้ภายใน จนพระพุทธโสธรมีขนาดหน้าตักกว้างถึง  ๓  ศอกเศษ ดังที่เห็นในปัจจุบัน

ตามความเห็นของนักโบราณคดี อันได้แก่ หลวงรณสิทธิชัย อดีตอธิบดีกรมศิลปากร นายมานิต วัลลิโภดม ภัณฑารักษ์เอก กรมศิลปากร และนายมนตรี อมาตยกุล อดีตหัวหน้ากองประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร 


เห็นต้องตรงกันว่า พระพุทธโสธรมีพุทธลักษณะฝีมือช่างแบบล้่านช้าง ซึ่งเรียกกันสามัญว่า "พระลาว" โดยสังเกตุจากวงพระพักตร์ ชายสังฆาฏิ ทรวดทรง สำหรับพุทธลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าน่าจะบูรณะขึ้นในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา หรือต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่มีการกวาดต้อนครัวลาวชาวเวียงจันทร์์ เมื่อครั้งกบฏเจ้าอนุวงศ์ลงมายังกรุงเทพ ฯ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทราและบริเวณใกล้เคียงเป็นถิ่นฐานที่ครัวลาวเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ และช่างฝีมือชาวลาวนี่เอง อาจเป็นผู้ปั้นปูนพอกเสริมให้องค์หลวงพ่อพุทธโสธรมีพุทธลักษณะดังที่เห็นในปัจจุบัน 

(หมายถึงรูปบนสุด)






ภายหลังในการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่  พระพุทธโสธร ได้มีการปั้นปูนหุ้มองค์ใหม่ ดังที่เห็นอยู่ขณะนี้



พระพุทธโสธร เป็นพระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ปูนปั้น ลงรักปิดทอง พระวรกายแบบเทวรูป พระเกตุมาลาแบบปลี (ทรงกรวย) อันหมายถึงความอยู่เย็นเป็นสุขตามคติชาวจีน ข้อพระกรข้างขวามีกำไลรัดตรึง เป็นเครื่องหมายถึงความอาทรห่วงใยที่หลวงพ่อทรงมีต่อสาธุชนที่เคารพบูชาในองค์ท่าน ทรงจีวรบางแนบพระองค์ มีความกว้างพระเพลา  ๓  ศอก  ๕ นิ้ว ( ๑เมตร  ๖๕    เซนติเมตร) สูง ๑ เมตร   ๙๘  เซนติเมตร ประทับอยู่เหนือรัตนบัลลังก์   ๔  ชั้น ซึ่งปูลาดด้วยผ้าทิพย์ อันมีความหมายถึงการอยู่สูงสุด เป็นพุทธเหนือพระอริยบุคคลอีก  ๔  ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ปัจจุบันในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปบนแท่นฐานชุกชีทั้งหมด ๑๘   องค์ โดยที่พระพุทธโสธรประดิษฐานอยู่ตรงกลาง

หลวงพ่อพุทธโสธร เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร อันยิ่งใหญ่ที่ปกปักให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้ร่มเย็น กางกั้นสรรพภัยอันตรายและความเดือดร้อนลำเค็ญ ดลให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข เป็นแพทย์ผู้วิเศษพยาบาลรักษาผู้อาพาทให้หายจากโรคภัยที่เบียดเบียน เป็นสรณะที่พึ่งพิงของพุทธบริษัท เป็นผู้พยากรณ์ทำนายโชคชะตาวาสนา เป็นผู้ดลบันดาลสุขสมหวังให้ทุกผู้ทุกคนที่กราบนมัสการ เป็นสัพพัญญููผู้สำเร็จวิชาการทั้งทางโลกและทางธรรม และเป็นบรมครูของเหล่าเทพยดาและมนุษย์

หมายเหตุ 


พลอยโยมคิดเองว่า ที่มีคำเล่ามาว่าองค์หลวงพ่อโสํธร แกะสลักด้วยไม้โพธิ์ คงมาจากคำเล่าขานของคนรุ่นเก่าที่ไปกราบไหว้บูชาหลวงพ่อในช่วงที่ทางวัดสร้างองค์จำลองด้วยไม้แล้วนำไปสวมครอบ ก็เป็นได้ และการที่นำข้อความ ตำนานว่าเป็นองค์แกะสลักด้วยไม้ เพื่อให้คำเล่าขานในส่วนนี้ไม่ถูกลบเลือนไปซึ่งบทความนี้ซึ่งพลอยโพยมคัดลอกมาจากหนังสือ โสธรวรารามวรวิหาร นิมิตแห่งบุญ ซึ่งพิมพ์โดย คุณฐิระวัตร กุลละวณิขย์ ขณะดำรงตำแหน่ง อธิบกรมโยธาธิการและผังเมือง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานอำนวยการและบริหารงานก่่อสร้างพระอุโบสถ ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น